เคล็ดลับการเพิ่มประสิทธิภาพการไลฟ์สตรีม
17/03/2568
องค์ประกอบที่ส่งผลต่อยอดขายของไลฟ์สตรีม
- กระบวนการเปลี่ยนผู้รับชมไลฟ์สตรีมเป็นผู้ซื้อ สามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนดังต่อไปนี้:
- พฤติกรรมของผู้รับชมในการซื้อสินค้าจากไลฟ์สตรีม: เมื่อผู้รับชมเห็นไลฟ์สตรีมขณะที่เลื่อนดู TikTok และถูกดึงดูดความสนใจจากเนื้อหา จึงทำให้ตัดสินใจกดเข้าสู่ห้องไลฟ์สตรีม หลังจากนั้นผู้รับชมจะเริ่มพูดคุยกับกับครีเอเตอร์ จนนำไปสู่การเป็นลูกค้า โดยฟังครีเอเตอร์พูดคุยเกี่ยวกับสินค้า ซึ่งถ้าหากผู้รับชมชอบสินค้าก็จะคลิกเพื่อดูรายละเอียดสินค้า เเละหลังจากที่ตัดสินใจซื้อสินค้ารวมถึงยอมรับราคาที่ครีเอเตอร์เเจ้ง ผู้รับชมจะดำเนินการสั่งซื้อสินค้ากับร้านค้าเเละเมื่อได้รับสินค้าแล้ว หากพอใจกับการสั่งซื้อและยืนยันการชำระเงินบนแพลตฟอร์ม ทางร้านค้าก็จะได้รับเงินหลังจากที่คำสั่งซื้อดังกล่าวดำเนินการสำเร็จ
![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() |
ดูไลฟ์ | เปิดไลฟ์ | ดูไลฟ์ | โต้ตอบกับครีเอเตอร์ | คลิกดูสินค้า | ซื้อสินค้า | ประสบการณ์การบริการ |
- เพื่อช่วยให้ผู้ขายรับทราบถึงปัจจัยต่างๆ ที่ที่มีผลต่อการสร้างยอดขายในไลฟ์สตรีมและสามารถแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้:
- ระยะเวลาการไลฟ์สตรีม หมายถึง จำนวนไลฟ์สตรีมคูณด้วยระยะเวลาของไลฟ์สตรีมแต่ละครั้ง: ระยะเวลาการไลฟ์จะส่งผลต่อการมองเห็นไลฟ์สตรีม ซึ่งหากระยะเวลาการไลฟ์นาน ผู้รับชมก็จะเห็นไลฟ์สตรีมมากยิ่งขึ้น
- อัตราการเข้าร่วม (การมองเห็น - อัตราการคลิก) หมายถึง จำนวนผู้รับชมที่คลิกเปิดดูไลฟ์สตรีม หารด้วยอัตราการมองเห็นทั้งหมดของไลฟ์สตรีม ยิ่งมีอัตราการมองเห็นที่สูง ผู้รับชมก็ยิ่งเห็นไลฟ์สตรีมมากยิ่งขึ้น และเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการเปลี่ยนจากผู้รับชมให้เป็นลูกค้าเเละดำเนินการสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้า
- ระยะเวลาการรับชมเฉลี่ย หมายถึง ระยะเวลาการรับชมเฉลี่ยที่ยาวนาน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงไลฟ์สตรีมที่มีคุณภาพและเนื้อหาที่น่าสนใจสำหรับผู้รับชม รวมถึงส่งผลดีต่อยอดการเข้าชม โดยระบบมีแนวโน้มจะแนะนำไลฟ์ตรีมให้แก่ผู้รับชมคนอื่นๆ มากยิ่งขึ้น ยิ่งผู้รับชมดูไลฟ์สตรีมนานมากขึ้น ก็จะยิ่งได้ยินครีเอเตอร์พูดถึงประโยชน์และคุณสมบัติเด่นของสินค้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้รับชมตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้นเเละส่งผลให้อัตราการคลิกเพื่อซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย
- อัตราการคลิกผ่านสินค้า (CTR) หมายถึง ยอดการคลิกที่สินค้าหารด้วยการเข้าดูสินค้า: ยิ่งอัตราการคลิกผ่านสินค้าสูงเท่าใด อัตราการเข้าชมก็จะยิ่งสูงมากขึ้น
- อัตราการคลิกเพื่อสั่งซื้อสินค้า (C_O) หมายถึง จำนวนการสั่งซื้อสินค้าหารด้วยยอดการคลิกที่สินค้า: ยิ่งอัตราการคลิกเพื่อสั่งซื้อสินค้าสูงเท่าใด ก็ยิ่งทำให้มีโอกาสเป็นคำสั่งซื้อมากยิ่งขึ้น
กลไกการไลฟ์
1. กลไกการไลฟ์มุมมองผู้รับชมผู้รับชมดูสินค้าบน TikTok เเละระบบจะเเนะนำห้องไลฟ์ เมื่อผู้รับชมเข้าห้องไลฟ์จะได้พบกับเนื้อหาที่น่าสนใจ เเละทำให้ตัดสินใจที่ดูห้องไลฟ์นั้นต่อไป- การทำงานของระบบไลฟ์: เมื่อผู้รับชมดูสินค้าบน TikTok ระบบจะเลือกห้องไลฟ์ที่มีคุณสมบัติให้ตรงกับพฤติกรรมเเละความชอบของผู้รับชม
- วิธีหลีกเลี่ยงปัญหาการเข้าชมลดลงเนื่องจากการละเมิดกฎข้อบังคับ
- การหลีกเลี่ยงเนื้อหาที่ละเมิดกฎข้อบังคับของแพลตฟอร์ม การแนะนำของครีเอเตอร์ ภาพซ้อนไลฟ์สตรีม และการเลือกสินค้า เป็นข้อกำหนดเบื้องต้นที่สำคัญสำหรับการไลฟ์สตรีม ซึ่งผู้ขายสามารถศึกษาเเละเรียนรู้นโยบายได้ที่ TikTok Shop Academy: ศูนย์นโยบาย
- ยอดการคลิกสินค้าและคำสั่งซื้อที่เกิดขึ้นในไลฟ์จะช่วยเพิ่มการรับชมมากยิ่งขึ้น
- ปรับปรุงการโต้ตอบ เช่น อัตราการกดถูกใจ อัตราคการคิดเห็น และอัตราการแชร์
- ผู้ขายควรดำเนินการต่างๆ ตามนโยบายที่กำหนด เพื่อลดอัตรารีวิวเชิงลบของสินค้าในไลฟ์และลดอัตราการยกเลิกคำสั่งซื้อ อัตราการจัดส่งสินค้าล่าช้า เเละอัตราประสิทธิภาพต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ผู้ขายที่ดำเนินงานตามนโยบายที่กำหนดเเละมีคะเเนนอัตราประสิทธิภาพต่างๆ ที่ดี จะช่วยเพิ่มยอดขายในการไลฟ์สตรีม ซึ่งผู้ขายสามารถศึกษา "เเนวทางการพัฒนาไลฟ์สตรีม 1.0" เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการไลฟ์ให้ดียิ่งขึ้น
เเนวทางการพัฒนาไลฟ์สตรีม 1.0
การเพิ่มระยะเวลาการไลฟ์ 1. ระยะเวลาการไลฟ์ คืออะไร- การเพิ่มระยะเวลาของไลฟ์สตรีมเดียว
- การเพิ่มจำนวนไลฟ์สตรีมต่อสัปดาห์ให้มากขึ้น
- ระยะเวลาการไลฟ์ คือ ระยะเวลาเฉลี่ยของไลฟ์สตรีมคูณด้วยจำนวนไลฟ์สตรีมทั้งหมด ซึ่งมี 2 วิธีที่ส่งผลต่อระยะเวลาการไลฟ์ ดังนี้
- ผู้ขายสามารถดูระยะเวลาการไลฟ์ของครีเอเตอร์ที่คล้ายกันได้ที่ การวิเคราะห์การไลฟ์ และสามารถไลฟ์ให้มีระยะเวลาที่เฉลี่ยเท่ากัน
![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() |
ดูไลฟ์สตรีม | เปิดไลฟ์สตรีม | ดูไลฟ์ | โต้ตอบกับครีเอเตอร์ | คลิกดูสินค้า | ซื้อสินค้า | ประสบการณ์การบริการ |
- ระยะเวลาการไลฟ์ ถือเป็นพื้นฐานสำหรับผู้รับชมในการค้นหาไลฟ์สตรีมผู้ขาย หากผู้ขายไลฟ์นานจะทำให้ไลฟ์สตรีมได้รับการมองเห็นมากขึ้น ดังนั้นผู้ขายควรไลฟ์สตรีมให้ได้ตามระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มฐานผู้รับชมให้มีมากยิ่งขึ้น
- เมื่อผู้รับชมเลื่อนดูไลฟ์สตรีมในฟีดและพบว่ามีเนื้อหาน่าสนใจ ผู้รับชมจะแตะที่ไลฟ์สตรีมเพื่อเปิดดู กรณีนี้อัตราของผู้รับชมที่เข้าร่วมไลฟ์สตรีมจะเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันหากผู้รับชมไม่พบเนื้อหาที่น่าสนใจและเลื่อนผ่าน จะทำให้อัตราการเข้าร่วมไลฟ์สตรีมลดลง
- อัตราการเข้าร่วมไลฟ์สตรีม ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับผู้รับชมที่จะซื้อสินค้าในไลฟ์สตรีมของผู้ขาย
![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() |
ดูไลฟ์สตรีม | เปิดไลฟ์สตรีม | ดูไลฟ์ | โต้ตอบกับครีเอเตอร์ | คลิกดูสินค้า | ซื้อสินค้า | ประสบการณ์การบริการ |
- เมื่ออัตราการแสดงผลไลฟ์สตรีมคงที่ การเพิ่มอัตราการเข้าร่วมจะเพิ่มจำนวนผู้รับชมไลฟ์สตรีมได้อย่างรวดเร็ว
- คุณภาพของภาพเเละเสียง
- ระยะเวลาเเละความถี่ในการไลฟ์
- กิจกรรมของแพลตฟอร์ม: โปรโมชั่น เเคมเปญ หรือกิจกรรมต่างๆ ประจำเดือน
- กิจกรรมตามเทศกาล: เทศกาลต่างๆ เช่น วันปีใหม่ วันลอยกระทง
- กิจกรรมร้านค้า: ลดราคาฉลองครบรอบ ลดล้างสต๊อก ลดประจำเดือน
- ตัวอย่าง: หากธีมงานคือการลดล้างสต๊อก ผู้ขายอาจจัดกิจกรรมขึ้นในคลังสินค้าเเละผู้จัดไลฟ์สตรีมอาจเป็นผู้จัดการร้านหรือพนักงานภายในร้าน
- ตั้งชื่อไลฟ์สตรีมโดยใช้ชื่อธีมของงานหรือเเละสิทธิพิเศษ เพื่อให้ผู้รับชมเข้าใจอย่างรวดเร็วว่าไลฟ์สตรีมนำเสนออะไรและรู้ถึงประโยชน์หรือสิทธิพิเศษที่จะได้รับ
- ตกเเต่งพื้นหลังของไลฟ์สตรีมตามธีมงาน เช่น ต้นคริสต์มาสในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
- ผู้จัดไลฟ์สตรีมหรือครีเอเตอร์แต่งกายหรือแสดงท่าทางให้เข้ากับสินค้าและธีมของงาน เช่น แต่งเป็นซานตาคลอสให้เข้ากับเทศกาลคริสต์มาส หรือเชิญผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผิวพรรณมาพูดคุยเรื่องสินค้าบำรุงผิว
- ระหว่างดำเนินกิจกรรมสามารถเปิดเพลงหรือดนตรีประกอบให้เข้ากับธีมของงาน
- ผู้จัดไลฟ์สตรีมควรเเบ่งจังหวะการพูดให้เหมาะสมกับช่วงต่างๆ เช่น จังหวะเร็ว จังหวะช้า เพื่อสร้างความรู้สึกเเละอารมณ์ให้กับผู้ชม ที่สำคัญควรเน้นย้ำหรือพูดชื่อกิจกรรมบ่อยๆ เพื่อให้ผู้รับชมจดจำได้มากขึ้น
- การทำเอฟเฟกต์ภาพ
- การทำเอฟเฟกต์เสียง
- ผู้จัดไลฟ์สตรีมควรนำเสนอสินค้าบริเวณตำเเหน่งที่ใกล้กล้องมากที่สุด เพื่อให้ผู้รับชมเห็นรายละเอียดต่างๆ ของสินค้า กรณีสินค้าที่มีอุปสรรคต่อการนำเสนอ เช่น สินค้าประเภทยากันยุง ซึ่งอาจทำให้มีควันจำนวนมาก สามารถสาธิตด้วยการเเต่งตัวให้เหมาะกับสินค้าเเละอธิบายรายละเอียดเพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับผู้รับชม
- การเลือกสินค้า
- การสร้างความน่าสนใจ: กรณีสินค้าประเภทเสื้อผ้า ผู้จัดไลฟ์สตรีมสามารถแต่งหน้าเเละทำผม เพื่อให้เข้ากับเสื้อผ้าที่นำเสนอ ซึ่งจะทำให้สินค้าสร้างความน่าสนใจให้กับผู้รับชม
- สินค้าประเภทหายาก: สำหรับสินค้าที่หายากประเภทต่างๆ เช่น เครื่องประดับ วัตถุมงคล จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายเฉพาะของร้านค้าเข้าถึงไลฟ์สตรีมได้เพิ่มมากขึ้น
- สินค้าประจำฤดูกาล: กรณีช่วงฤดูร้อน ผู้รับชมจะค้นหาสินค้าที่ช่วยคลายความร้อน เช่น เครื่องดื่ม หรือเทศกาลคริสต์มาส ผู้รับชมจะค้นหาสินค้าที่ใช้สำหรับตกเเต่งสำหรับเทศกาล ดังนั้นการนำเสนอสินค้าให้ตรงกับฤดูกาลหรือเทศกาลต่างๆ จะช่วยให้สินค้าได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง
- ประโยชน์ของสินค้า: ผู้ขายควรนำเสนอสินค้าที่ช่วยเเก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้ผู้รับชมรู้ถึงประโยชน์ของสินค้าเเละช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
- การสาธิตสินค้า
- การแสดงตัวอย่างสินค้า: กรณีเสื้อผ้า ผู้จัดไลฟ์สตรีมสามารถใส่เสื้อผ้า เพื่อให้ผู้รับชมเห็นรายละเอียดต่างๆ หรือกรณีสร้อยคอมือก็สามารถนำมาโชว์บริเวณหน้ากล้อง เพื่อให้ผู้รับชมเห็นความสวยงามเเละเห็นสินค้าได้ชัดมากขึ้น
- การเเสดงตัวอย่างสินค้าที่ไม่ควรทำ: กรณีเครื่องสำอางค์ ผู้จัดไลฟ์สตรีมต้องการสาธิตทาลิปสติก ซึ่งสินค้าประเภทนี้สามารถอธิบายลักษณะสีเเละส่วนผสมต่างๆ เเทนการทาบริเวณริมฝีปากเเล้วลบออก
- การเเสดงสินค้าหน้ากล้อง
- โลโก้เเบรนด์
- ควรใช้รูปเเบบเเละสีที่สร้างการจดจำได้ง่ายเเละเหมาะสมกับประเภทสินค้า
- พื้นที่ในการไลฟ์
- หากนำเสนอสินค้าในพื้นที่ขายจริง เช่น เคาร์เตอร์ขายสินค้า การขายในร้านค้า การขายในโรงงาน จะทำให้ผู้รับชมไว้วางใจต่อสินค้ามากยิ่งขึ้น
- ผู้จัดไลฟ์สตรีม
- ควรเลือกให้เหมาะสมกับประเภทสินค้า
- ผู้จัดไลฟ์สตรีมสามารถสร้างกิจกรรมให้ผู้รับชมเข้ามามีส่วนร่วม เช่น ทอค์กโชว์ คอนเสิร์ต เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้รับชม
- ความสนใจของผู้รับชม
- การค้นหาความสนใจของผู้ชม: ผู้ขายสามารถค้นหาเนื้อหาที่ผู้รับชมชื่นชอบได้ผ่านการขายในร้านค้า เเละสามารถใช้การวิเคราะห์ข้อความค้นหาข้อมูล เพื่อวิเคราะห์ข้อความที่ค้นหายอดนิยมของร้านผู้ขาย และค้นหาความสนใจล่าสุดของกลุ่มเป้าหมาย
- ไลฟ์สตรีมที่มีการเข้าชมจำนวนมากทำให้มีจำนวนผู้รับชมที่สูงขึ้น
- เมื่อเริ่มไลฟ์สตรีมเเละผู้รับชมออกไปอย่างรวดเร็วจะทำให้ไม่ได้ยินครีเอเตอร์พูดถึงประโยชน์ของสินค้า เเละโอกาสที่จะสร้างยอดขายก็ลดลง
- ครีเอเตอร์ควรสร้างความดึงดูดเเละความน่าสนใจให้กับผู้รับชม เพื่อให้มีผู้รับชมอยู่ในห้องไลฟ์สตรีมตลอดเวลา
- ผู้ขายมักให้ความสำคัญกับการเข้าชมของผู้รับชมและการเข้าชมที่แนะนำ เพื่อเพิ่มจำนวนผู้รับชมที่เข้าร่วมไลฟ์สตรีม ซึ่งในขณะเดียวกันก็มองข้ามการรักษาผู้รับชม โดยจำนวนผู้รับชมที่เข้ามาจะหายไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นการลดอัตราการสูญเสียผู้รับชม คือกุญแจสำคัญในการเพิ่มยอดเข้าชมไลฟ์สตรีม ทำให้ผู้รับชมมีระยะเวลาดูเเละมีแนวโน้มที่จะโต้ตอบมากขึ้น
- ความคาดหวังของผู้รับชม คือ กุญแจสำคัญในการรักษาจำนวนผู้รับชม
- ขณะที่ครีเอเตอร์กำลังพูดถึงสินค้า จะมีผู้รับชมที่มีเป้าหมายในการซื้ออยู่ในไลฟ์สตรีมเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นความท้าทายที่จะรักษาผู้รับชมที่ไม่ได้มีเป้าหมายซื้อสินค้าให้อยู่ในไลฟ์สตรีมเป็นเวลานาน
- ขณะที่ครีเอเตอร์กำลังพูดถึงสินค้า ผู้รับชมจะรอช่วงโค้ดส่วนลดหรือสิทธิพิเศษต่างๆ ดังนั้นผู้รับชมจะอยู่ในไลฟ์สตรีมนานมากขึ้น เพื่อไม่ให้พลาดช่วงที่สำคัญ เช่น นาทีทอง ลดเฉพาะวันนี้ เป็นต้น
- เข้าใจความคาดหวังของผู้รับชม
- ด้านความสวยงาม: สินค้า สถานที่ เเละพื้นหลังไลฟ์สตรีมที่สวยงาม พร้อมกับสร้างบรรยากาศที่สนุกสนาน
- ด้านความน่าตื่นเต้น: สร้างความประทับใจให้ผู้รับชมผ่านแนวคิดเนื้อหาที่ไม่เหมือนใครและแปลกใหม่
- ด้านการผลิต: นำเสนอกระบวนการผลิตเพื่อสร้างความมั่นใจต่อสินค้าให้กับผู้รับชม
- ด้านมูลค่าสินค้า: การอธิบายถึงประโยชน์ของสินค้าช่วยให้ผู้รับชมสามารถรับรู้คุณค่าได้อย่างรวดเร็วและทำให้เข้าใจสินค้าได้ดีขึ้น
- สถานการณ์เเนะนำสินค้า: จัดเตรียมสินค้าไว้ในสถานที่ใช้งาน
- ตัวอย่าง: สำหรับบางคนการล้างเครื่องสำอางถือเป็นสิ่งเเรกที่ต้องทำเมื่อกลับถึงบ้าน
- ปัญหาของผู้รับชม: อธิบายปัญหาเกี่ยวกับสินค้าที่ผู้รับชมใช้ และรวมประเด็นข้างต้นเข้ากับคุณลักษณะของสินค้าทันที
- ตัวอย่าง: การลบเครื่องสำอางถือเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากและใช้เวลานาน
- ประสบการณ์ผู้รับชม: สาธิตการใช้สินค้าเพื่อให้ผู้รับชมรู้ถึงข้อดีเเละการช่วยแก้ไขปัญหา
- ตัวอย่าง: ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางค์จะช่วยทำความสะอาดใบหน้าเพียง 3 วินาที จากปกติที่ผู้รับชมต้องใช้เวลาถึง 10 วินาที จึงช่วยแก้ปัญหาลดเวลาล้างเครื่องสำอางค์ ทั้งนี้ ควรเตรียมเครื่องสำอางที่ล้างยาก เช่น ลิปสติก อายไลน์เนอร์ เพื่อสาธิตประสิทธิภาพของสินค้าให้ผู้รับชมได้ดู
- การเปรียบเทียบ: เปรียบเทียบระหว่างสินค้าของผู้ขายกับสินค้าอื่นๆ ที่มีลักษณะเหมือนกัน
- ตัวอย่าง: สาธิตผลลัพธ์การใช้ระหว่างที่ล้างเครื่องสำอางค์ของผู้ขายกับเเบรนด์อื่นๆ เพื่อให้ผู้รับชมเห็นประสิทธิภาพเเละความเเตกต่าง
- เนื้อหาที่น่าดึงดูด:
- พื้นหลังของกิจกรรม: สามารถตกเเต่งให้มีความสวยงาม เช่น กองของขวัญ ต้นคริสต์มาศ
- จังหวะการพูด: ผู้จัดไลฟ์สตรีมหรือครีเอเตอร์ควรใช้จังหวะการพูดให้เหมาะสม เพื่อสร้างอารมณ์เเละความรู้สึกร่วมให้กับผู้รับชม
- การพูดในกิจกรรม:
- การเปรียบเทียบ: เปรียบเทียบระหว่างราคาสินค้าของผู้ขายกับสินค้าของผู้อื่น
- เเจ้งรายละเอียด: อธิบายรายละเอียดราคาสินค้าหากผู้รับชมซื้อภายในไลฟ์สตรีม เช่น ซื้อภายในไลฟ์ลด 50% เพื่อให้ผู้รับชมรู้ถึงความคุ้มค่าเเละสิทธิพิเศษต่างๆ
1. สาเหตุที่ต้องเพิ่มอัตราการโต้ตอบ
สำหรับผู้ขาย:
- การโต้ตอบสามารถรักษาผู้รับชมไว้ให้อยู่ได้นานขึ้น
- การโต้ตอบจะเพิ่มอัตราการคลิก
- การโต้ตอบส่งผลดีต่อยอดขายและการเข้าชมไลฟ์สตรีม
- การโต้ตอบช่วยให้ผู้รับชมเข้าใจสินค้าได้มากยิ่งขึ้น
- การโต้ตอบสร้างความไว้วางใจของสินค้าให้กับผู้รับชม
2. การเพิ่มอัตราการโต้ตอบ ผู้รับชมสามารถโต้ตอบกับไลฟ์สตรีมได้ 4 วิธี ดังนี้1. การกดถูกใจ
2. การแสดงความคิดเห็น3. การแชร์4. การติดตาม จากทั้ง 4 วิธีข้างต้น "การแสดงความคิดเห็น " และ "การติดตาม" เป็นการโต้ตอบหลักที่ผู้ขายควรให้ความสำคัญ 3. วิธีเพิ่มอัตราการโต้ตอบ 1. การพูดโดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้รับชม: เข้าถึงจิตวิทยาของผู้รับชมหรือให้ความรู้สึกปลอดภัยวิธีการ: บอกประโยชน์หรือข้อดีของสินค้า + บอกให้กดติดตามหรือแสดงความคิดเห็น- อธิบายประโยชน์ของสินค้า เช่น แนะนำเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต ข้อดีหรือประโยชน์ และราคาของสินค้าในไลฟ์สตรีมเมื่อเทียบกับไลฟ์สตรีมอื่นๆ เเละอธิบายสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น ราคานี้หรือสินค้านี้เฉพาะไลฟ์นี้เท่านั้น สินค้ามีจำนวนจำกัด เป็นต้น
- ให้ผู้รับชมกดติดตามหรือแสดงความคิดเห็น เช่น ผู้รับชมที่ต้องการสินค้าสีแดงแสดงความคิดเห็นว่า "สีแดง" และให้ผู้รับชมที่ต้องการสีเขียวแสดงความคิดเห็นว่า "สีเขียว" ทั้งนี้ หากผู้รับชมชอบสินค้าเเละไลฟ์สตรีมสามารถคลิกปุ่มติดตามที่มุมซ้ายบน เพื่อให้ไม่พลาดไลฟ์สตรีมครั้งต่อไป
- ตัวอย่าง: "มีสาวๆ คนไหนในไลฟ์สตรีมที่ไม่มั่นใจกับรูปร่างของตัวเองบ้าง ถ้ามีช่วยแสดงความคิดเห็นหรือกดติดตาม แล้วทางเราจะส่งชุดสินค้าไปให้ทดลองฟรี เเละเพื่อไม่พลาดไลฟ์สตรีมครั้งต่อไปสามารถคลิกปุ่มติดตามที่มุมซ้ายบน"
- สถานการณ์หรือมุมมองที่สะท้อนความเห็นอกเห็นใจ เช่น "ขอบคุณผู้ติดตามของเราสำหรับการสนับสนุนและทำให้ธุรกิจยังดำเนินการต่อไปได้ เราอยากสร้างสินค้าที่ดียิ่งขึ้นเพื่อคุณตลอดไปในทุกๆ ช่วงเวลา"
- GPM คือ กุญแจสำคัญในอัตราการเปลี่ยนเเปลงการซื้อของผู้รับชม
- GPM คือ อัตราการคลิกผ่านสินค้า, CTR คือ อัตราการคลิกเพื่อสั่งซื้อสินค้า, C_O มูลค่าคำสั่งซื้อเฉลี่ย, AOV*1,000 รายได้ที่ได้รับในทุกๆ การมองเห็นครั้งที่ 1,000
- CTR และ C_O ที่สูงสามารถดึงดูดให้ผู้รับชมเข้ามาดูไลฟ์สตรีมได้มากขึ้น
- อัตราการเปลี่ยนเเปลงที่ดี
- เปรียบเทียบอัตราการเปลี่ยนเเปลงของผู้ขายกับรายได้ที่ผ่านมาว่าเป็นที่น่าพึงพอใจหรือไม่
- เปรียบเทียบอัตราการเปลี่ยนเเปลงของผู้ขายกับค่าเฉลี่ยของผู้ขายอันดับต้นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ของร้านค้าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
- เพิ่มอัตราการเปลี่ยนเเปลงที่ใด
- คำพูดและภาพลักษณ์ของครีเอเตอร์
- คุณลักษณะและลักษณะของสินค้า
- แคมเปญการตลาด
2. การเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเเปลง
- คำพูดและภาพลักษณ์ของครีเอเตอร์
- คำพูดของครีเอเตอร์: ไลฟ์สตรีมที่มีอัตราการเปลี่ยนเเปลงสูง คือ เข้าใจกระบวนการ + เข้าใจการแสดงออก + เข้าใจคำอธิบาย
- วิธีการพูด: สำหรับสินค้ารายการเดียวแบบ ASBC: A คือ การดึงดูดความสนใจ, S คือ การขาย, B คือ ผลประโยชน์ เเละ C คือ ลูกค้า
- A: แนะนำสินค้าด้วยคำถามแบบโต้ตอบหรือคำถามเชิงโวหาร เช่น "มีผู้ชมคนไหนอยากได้สินค้าที่สภาพใหม่บ้าง สินค้าชิ้นนี้เป็นสินค้าที่คุ้มค่าที่สุดที่จะนำเสนอในวันนี้ อยากรู้หรือไม่ว่าทำไม”
- S: การรับรองการขาย โดยการพูดถึงข้อด้อยก่อนเเล้วค่อยพูดถึงข้อดีตอนหลัง เช่น "รองเท้าเบอร์ 7 อาจไม่สวยที่สุดแต่เหมาะกับคนทุกวัยเเละสวมใส่สบาย”
- B: อธิบายถึงประโยชน์หรือสิทธิพิเศษการไลฟ์สตรีมและเน้นข้อเสนอที่มีสินค้าจำกัดหรือมีเวลาจำกัดเท่านั้น เช่น "ทุกคนที่ซื้อรองเท้าเบอร์ 7 จะได้รับถุงซักผ้าฟรีมูลค่า 100 บาท เเละสามารถกดติดตามเพื่อรับคูปองส่วนลด"
- C: อธิบายการเปรียบเทียบสินค้า เช่น "ผู้ที่มีน้ำหนักระหว่าง 60–70 กม. ควรเลือกรองเท้าเบอร์ 7 เพราะเหมาะสมมากกว่ารองเท้าเบอร์ 8"
- วิธีการพูด: สำหรับสินค้ารายการเดียวแบบ ASBC: A คือ การดึงดูดความสนใจ, S คือ การขาย, B คือ ผลประโยชน์ เเละ C คือ ลูกค้า
- ปรับปรุงคำพูดและการแสดงออก
- มีการถามคำถาม โต้ตอบกับผู้รับชม เเละแนะนำแบรนด์ แนะนำสินค้า หรือมีสื่อส่งเสริมการขาย
- ปรับคำพูดของครีเอเตอร์ให้สนุกเเละร่าเริง เพื่อให้ผู้รับชมดูไลฟ์และเกิดการโต้ตอบ
- เปลี่ยนจังหวะการพูดให้เหมาะสมกับช่วงต่างๆ เพื่อสร้างอารมณ์เเละความรู้สึกให้กับผู้รับชม
- เเบ่งจังหวะการพูดเเละใช้น้ำหนักเสียงให้เหมาะสม เพื่อให้ผู้รับชมเข้าใจประเด็นที่จะนำเสนอ
- สาธิตวิธีการสั่งซื้อ: เมื่อแนะนำสินค้าสามารถใช้โทรศัพท์แสดงให้ผู้รับชมเห็นวิธีคลิกตะกร้าสินค้าสีเหลืองขนาดเล็กเพื่อดำเนินการสั่งซื้อ
- คุณลักษณะพื้นฐานของสินค้า: รวมชื่อ + รูปภาพหลัก + หน้ารายละเอียดสินค้า
- อธิบายปัญหาของผู้รับชม
- สามารถวิเคราะห์โปรไฟล์กับผู้รับชม เพื่อศึกษาเเละทราบถึงเนื้อหา วิดีโอ กำลังซื้อ เพศ และช่วงอายุ
- สามารถวิเคราะห์ตลาดของข้อความค้นหา เพื่อศึกษาว่าผู้รับชมสนใจหัวข้อและสินค้าใด
- การทดสอบไลฟ์สตรีม: ทดสอบสินค้า ราคา ฟังก์ชัน และจุดขายต่างๆ ในไลฟ์สตรีมเเบบรายวัน เพื่อศึกษาว่าผู้รับชมสนใจอะไรมากที่สุด
- ประโยชน์ + จุดขาย + สินค้าขายดีจะแสดงในหน้าข้อมูลสินค้า
- เพิ่มประสิทธิภาพชื่อสินค้า: เพิ่มคำศัพท์ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมและคำที่เป็นคุณลักษณะของสินค้า เพื่อช่วยดึงดูดผู้รับชมที่สนใจในคุณลักษณะสินค้า โดยสามารถดูคำศัพท์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมและคำที่เกี่ยวกับคุณลักษณะได้ที่ รายงานข้อมูล > การวิเคราะห์ตลาด > การวิเคราะห์คำหลัก ซึ่งผู้ขายสามารถค้นหาข้อความค้นหาและคำที่ได้รับความนิยม
- รูปภาพหลักของสินค้า: แสดงชื่อแบรนด์ + คุณลักษณะของสินค้า/จุดขาย + สิทธิประโยชน์ด้านราคา เช่น ซื้อ 3 จ่าย 1, ซื้อในราคา 99 บาท หรือ ซื้อ 1 แถม 1
- หน้ารายละเอียดสินค้า: แสดงรายละเอียดคุณสมบัติและคุณลักษณะของสินค้า รวมถึงวิธีการใช้สินค้าและอธิบายคำถามหรือข้อสงสัยต่างๆ
- อธิบายปัญหาของผู้รับชม
- แนวคิดในการจัดอันดับ
- หมวดหมู่เดียวกัน: ไลฟ์สตรีมจะจัดอยู่ในหมวดหมู่เดียวกันและจัดเรียงสินค้าที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสินค้าที่กำลังได้รับความนิยม
- การเชื่อมโยงราคา: การปรับเปลี่ยนราคาของสินค้าต่างๆ ซึ่งราคาของสินค้าในไลฟ์สตรีมควรเริ่มจากราคาต่ำไปสูงหรือราคาสูงไปต่ำ เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ย โดยผู้ขายที่มีสินค้าน้อยสามารถสร้างชุดสินค้าที่แตกต่างกันและให้คำแนะนำควบคู่ไปกับสินค้าที่ได้รับความนิยม
- หลีกเลี่ยงการขายซ้ำ: หลีกเลี่ยงการขายสินค้าชนิดเดียวกันซ้ำหลายครั้ง เช่น หากพยายามขายลิปสติก 2-3 แท่งในไลฟ์สตรีมเดียวกัน ผู้รับชมจะลังเลว่าซื้อแท่งไหนดี หรือหลีกเลี่ยงการขายสินค้าหลายอย่างที่มีคุณสมบัติเหมือนกัน เพราะจะทำให้ผู้รับชมเลือกได้ยากขึ้น
- แนวคิดในการจัดกลุ่ม
- สินค้าเดียวกันและมีหลายตัวเลือก: เหมาะสำหรับผู้ขายที่มีสินค้าน้อย ซึ่งสามารถโปรโมทสินค้าโดยใช้กลยุทธ์การใส่สินค้าหลายตัวเลือกในสินค้าเดียวกันสำหรับสินค้าที่ได้รับความนิยม
- เลือกสินค้าที่ได้รับความนิยม รวมสินค้าหลายรายการในหนึ่งสินค้า และเพิ่มราคาหรือส่วนลดต่างๆ
- ทดสอบการไลฟ์สตรีมหลายครั้ง เพื่อดูผลลัพธ์ที่เเตกต่าง และตรวจสอบชุดสินค้าที่มีอัตราการคลิกและอัตราการเปลี่ยนเเปลงสูงสุด
- ใช้กลยุทธ์รวมสินค้าหลายรายการในหนึ่งสินค้า เพื่อแนะนำการรวมสินค้าที่แตกต่างให้กับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เช่น แนะนำชุดรวม 20 ชิ้นให้กับลูกค้าใหม่และชุด 50 ชิ้นให้กับลูกค้าปัจจุบัน
- การรวมสินค้าหลายตัวเลือก: ผู้ขายที่มีสินค้าจำนวนมากสามารถใช้กลยุทธ์การรวมสินค้าหลายตัวเลือกเพื่อเพิ่ม GPM
- การกรองตัวเลือกสินค้า: สินค้าที่กำลังได้รับความนิยม 2 - 5 รายการที่มีการจดจำแบรนด์สูง
- การรวมตัวเลือกสินค้า: ชุดสินค้าต้องสอดคล้องกัน เช่น แจ็คเก็ต เสื้อ และกางเกง หรือรองพื้นและแป้ง
- ราคารการวมตัวเลือกสินค้า: ราคาต่อหน่วยโดยเฉลี่ยของการรวมกันหลายรายการควรเป็น 2 - 3 เท่าของราคาของสินค้าที่กำลังได้ความนิยมในไลฟ์สตรีมรายวัน ผู้ขายควรเพิ่มราคาและส่วนลดเพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณ
- การจัดอันดับ: อธิบายสินค้าที่กำลังได้รับความนิยม + สินค้าขนาดใหญ่
- สินค้าเดียวกันและมีหลายตัวเลือก: เหมาะสำหรับผู้ขายที่มีสินค้าน้อย ซึ่งสามารถโปรโมทสินค้าโดยใช้กลยุทธ์การใส่สินค้าหลายตัวเลือกในสินค้าเดียวกันสำหรับสินค้าที่ได้รับความนิยม
- การสร้างแคมเปญการตลาด: แคมเปญการตลาดช่วยส่งเสริมการขายและเพิ่มความต้องการของผู้รับชมในการสั่งซื้อสินค้า
- ติดตามแคมเปญการตลาดหลัก: โปรโมชัน 618, โปรโมชัน 99, การสนับสนุนอย่างเป็นทางการสำหรับการเข้าร่วมในกิจกรรมการตลาดหลัก เเละข้อเสนอแบบจำกัดเวลาสำหรับสินค้ายอดนิยม รวมถึงเพิ่มสิทธิพิเศษของขวัญ
- แคมเปญการตลาดของแบรนด์: การเข้าร่วมสำหรับกิจกรรมเฉพาะ
- จัดกิจกรรมการตลาดตามเทศกาลของผู้ขาย: วันพิเศษสำหรับผู้ติดตาม วันครบรอบ หรือวันต้อนรับสมาชิกใหม่ เเละควรจัดทุก 3 - 7 วัน เพื่อเปลี่ยนเเปลงกิจกรรมให้ไม่น่าเบื่อ
- การใช้เครื่องมือการตลาดในการวางแผนกิจกรรมและเพิ่มคำสั่งซื้อ: ผสมผสานกับหลักจิตวิทยา เพื่อสร้างความเเปลกใหม่และเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเเปลงของผู้ใช้
- กำหนดราคาแบบจำกัดเวลา: ช่วงแฟลชเซลราคาสินค้าจะลดลงในช่วงเวลาที่จำกัดก่อนที่จะกลับไปเป็นราคาเดิม ทั้งนี้ เพื่อจูงใจให้ผู้รับชมหรือลูกค้าซื้อได้อย่างรวดเร็ว
- สินค้าจำนวนจำกัด: ผู้ขายลดราคาลง XX แต่มีสินค้าในสต็อกเพียง XX ดังนั้นลูกค้าต้องรีบซื้อเพื่อไม่ให้พลาด
- ของแถมจำนวนจำกัด: ผู้รับชมหรือลูกค้าคนเเรกที่ทำการสั่งซื้อจะได้รับของขวัญมูลค่า XX ดังนั้นอย่ารอช้า รีบสั่งซื้อเลย พร้อมทั้งแจ้งยอดการสั่งซื้อเพื่อกระตุ้นความรู้สึกว่าต้องรีบซื้อในขณะนั้นทันที
- สร้างบรรยากาศสำหรับกิจกรรมทางการตลาด: พื้นหลังและวัสดุตกแต่งในไลฟ์สตรีม ช่วยให้ผู้รับชมเข้าใจธีมและประโยชน์ของไลฟ์สตรีมได้อย่างรวดเร็ว
- หมายเหตุ: รีวิวเชิงลบหมายถึงรีวิว 1 และ 2 ดาวจากลูกค้า
- สามารถดูการวัดประสิทธิภาพการบริการเพิ่มเติมได้ใน ศูนย์ผู้ขาย > ความพร้อมของร้านค้า
You may also be interested in

วิเคราะห์ประสิทธิภาพไลฟ์สตรีม
การวิเคราะห์ไลฟ์สตรีมเพื่อวัดผลประสิทธิภาพของไลฟ์สตรีม ฟีเจอร์การวิเคราะห์ไลฟ์สตรีมใหม่ล่าสุดพร้อมใช…

ฟีเจอร์แดชบอร์ด LIVE
แดชบอร์ด LIVE คือเครื่องมือติดตามประสิทธิภาพไลฟ์ของคุณในขณะที่ทำการไลฟ์และหลังจากที่จบการไลฟ์แล้ว…

วิธีตรวจสอบผลการดำเนินการไลฟ์สตรีม
บทความนี้จะสอนวิธีใช้ฟีเจอร์ประสิทธิภาพของไลฟ์สตรีม โดยเฉพาะวิธีการดูประสิทธิภาพไลฟ์สตรีมแบบเรียลไทม…

การวิเคราะห์ LIVE
บทความนี้อธิบายภาพรวมของฟีเจอร์การวิเคราะห์ LIVE และวิธีที่ร้านค้าสามารถเตรียมความพร้อมสำหรับเซสชัน…








