วิธีขอการรับรองแบรนด์

การรับรองแบรนด์คืออะไร

การรับรองแบรนด์ เป็นขั้นตอนที่ช่วยยืนยันว่าสินค้าที่มีแบรนด์ที่ขายบน TikTok Shop เป็นสินค้าแท้และได้รับอนุญาตให้มีการจัดจำหน่ายอย่างถูกต้อง โดยผู้ที่สามารถยื่นขอสมัครการรับรองแบรนด์ได้คือ เจ้าของเครื่องหมายการค้า ผู้ขายที่ได้รับอนุญาต หรือผู้ขายที่มีหลักฐานการซื้อสินค้าที่มีแบรนด์
โปรดทราบว่าผู้ขายมีหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฏหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวกับสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมด โดยการรับรองแบรนด์ของแพลตฟอร์มไม่อาจยกเว้นความรับผิดชอบของผู้ขายในกรณีที่มีการละเมิดกฏหมายหรือข้อกำหนดที่เกี่ยวกับสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาใด ๆ

การรับรองแบรนด์มีกี่ประเภท

ผู้ขายสามารถขอการรับรองแบรนด์ได้ หากมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
  • เจ้าของเครื่องหมายการค้า: คุณคือเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ได้จดทะเบียนแล้ว
  • ผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับ 1 แต่เพียงผู้เดียวในประเทศ: คุณเป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวที่ได้รับสิทธิโดยตรงจากเจ้าของเครื่องหมายการค้า
  • ผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 1: คุณได้รับอนุญาตให้ขายสินค้าโดยเจ้าของเครื่องหมายการค้า
  • ผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 2: คุณได้รับอนุญาตให้ขายสินค้าโดยผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 1
  • ผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 3: คุณได้รับอนุญาตให้ขายสินค้าโดยผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 2
  • ผู้ขายที่มีหลักฐานการซื้อ (เปิดให้ขอการรับรองได้เฉพาะผู้ขายบางราย): คุณสามารถแสดงใบแจ้งหนี้หรือใบเสร็จรับเงินที่ถูกต้องสำหรับสินค้าที่ซื้อโดยตรงจากเจ้าของเครื่องหมายการค้าหรือผู้ขายที่ได้รับอนุญาต
หมายเหตุ: ผู้ขายที่ลงทะเบียนแบบผู้ขายบุคคลทั่วไปอาจไม่ได้รับอนุญาตให้ขายสินค้าบางแบรนด์บน TikTok Shop หากต้องการขายสินค้าจากแบรนด์เหล่านี้ จะต้องลงทะเบียนเป็นผู้ขายนิติบุุคคล และได้รับอนุมัติการรับรองแบรนด์อย่างถูกต้อง

เอกสารที่ต้องใช้ตามประเภทการรับรองคุณสมบัติ

TH (2).png

เจ้าของเครื่องหมายการค้า

  • ใบรับรองเครื่องหมายการค้าอย่างเป็นทางการ
  • สามารถลงทะเบียนบัญชีผู้ขายเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าได้เพียงบัญชีเดียว โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสมัครด้วยบัญชีผู้ขายที่ถูกต้อง

สำหรับผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 1 เป็นกรณีพิเศษในประเทศ

หนังสือมอบอำนาจ (LOA) หรือจดหมายจัดจำหน่ายที่ตรงตามข้อกำหนดต่อไปนี้ทั้งหมด
  • ออกโดยเจ้าของแบรนด์โดยตรง
  • ระบุชื่อบริษัทหรือชื่อบุคคลของคุณ (ตามที่แสดงใน Seller Center > โปรไฟล์ผู้ขาย > ข้อมูลธุรกิจ)
  • ระบุชื่อแบรนด์ (ตรงกับแบรนด์ที่คุณสมัคร)
  • ระบุระยะเวลาที่ใช้ได้
  • ลงนามหรือรับรองโดยเจ้าของแบรนด์หรือตัวแทน โดยมีชื่อจริง นามสกุล และตำแหน่ง
  • ระบุเงื่อนไขการจัดจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟอย่างชัดเจน
  • ต้องเป็นเอกสารอนุญาตที่ถูกต้องและเป็นของจริง

ผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 1

หนังสือมอบอำนาจ (LOA) หรือจดหมายจัดจำหน่ายที่ตรงตามข้อกำหนดต่อไปนี้ทั้งหมด
  • ออกโดยเจ้าของแบรนด์โดยตรง
  • ระบุชื่อบริษัทหรือชื่อบุคคลของคุณ (ตามที่แสดงใน Seller Center > โปรไฟล์ผู้ขาย > ข้อมูลธุรกิจ)
  • ระบุชื่อแบรนด์ (ตรงกับแบรนด์ที่คุณสมัคร)
  • ระบุระยะเวลาที่ใช้ได้
  • ลงนามหรือรับรองโดยเจ้าของแบรนด์หรือตัวแทน โดยมีชื่อจริง นามสกุล และตำแหน่ง
  • ต้องเป็นเอกสารอนุญาตที่ถูกต้องและเป็นของจริง

ผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 2

หนังสือมอบอำนาจ (LOA) หรือจดหมายจัดจำหน่ายที่ออกโดยตรงจากผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 1 ถึงคุณที่ตรงตามข้อกำหนดต่อไปนี้
  • ออกโดยผู้ได้รับอนุญาตจากแบรนด์
  • ส่งเอกสารเพิ่มเติมแสดงว่าผู้ส่งมีสิทธิจากเจ้าของแบรนด์ในการอนุญาตผู้ขายอื่น
  • ระบุชื่อบริษัทหรือชื่อบุคคลของคุณ (ตามที่แสดงใน Seller Center > โปรไฟล์ผู้ขาย > ข้อมูลธุรกิจ)
  • ระบุชื่อแบรนด์ (ตรงกับแบรนด์ที่คุณสมัคร)
  • ระบุระยะเวลาที่ใช้ได้
  • ลงนามหรือรับรองโดยเจ้าของแบรนด์หรือตัวแทน โดยมีชื่อจริง นามสกุล และตำแหน่ง
  • ต้องเป็นเอกสารอนุญาตที่ถูกต้องและเป็นของจริง
  • ไม่บังคับ: ส่งเอกสารมอบอำนาจหรือจดหมายจัดจำหน่ายที่ออกโดยเจ้าของแบรนด์โดยตรงไปยังผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 1

ผู้ขายที่มีหลักฐานการซื้อ

ใบแจ้งหนี้หรือใบเสร็จที่ออกภายใน 12 เดือนล่าสุดซึ่งมีรายละเอียดต่อไปนี้
  • วันที่ซื้อ ชื่อซัพพลายเออร์ ชื่อผู้ซื้อ แบรนด์สินค้า รายละเอียดสินค้า จำนวน และราคา
  • หากคุณไม่สามารถเปิดเผยราคาสินค้าอันเนื่องมาจากข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูล โปรดส่งสำเนาข้อตกลงในการสมัครของคุณ
การส่งเอกสารเพิ่มเติม มีดังนี้
  • หากหลักฐานการซื้อไม่ได้ออกโดยเจ้าของแบรนด์ ให้ส่งเอกสารหรือภาพหน้าจอของเว็บไซต์ทางการ (ที่มีลิงก์ URL) เพื่อแสดงให้เห็นว่าซัพพลายเออร์คือผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของแบรนด์
  • ภาพสินค้าในสินค้าคงคลังของคุณ
  • ภาพสินค้าจริง (พร้อมบรรจุภัณฑ์) ในมุมต่าง ๆ ทั้งหมด 6 มุม

วิธีส่งการรับรองแบรนด์

ขั้นตอนที่ 1 - เข้าสู่ระบบ Seller Center

  • เข้าสู่ระบบบัญชีผู้ขายของคุณและส่งเอกสารที่จำเป็น โดยไปที่ "บัญชีของฉัน" > "การตั้งค่าบัญชี" > "ศูนย์การรับรอง" > "การรับรองแบรนด์" > "เพิ่มการรับรองแบรนด์"
img_v3_02rc_91e88a26-56bc-4855-aea7-fdef545ac1hu.gif

ขั้นตอนที่ 2 - เลือกประเภทการรับรองของคุณ

เลือกประเภทการรับรองที่เกี่ยวข้อง (เช่น เจ้าของเครื่องหมายการค้า ผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 1 เป็นต้น)

ขั้นตอนที่ 3 - กรอกข้อมูลเครื่องหมายการค้า/การรับรองคุณสมบัติ

กรอกทุกช่องที่จำเป็น

ขั้นตอนที่ 4: อัปโหลดเอกสารประกอบ

แนบเอกสารที่จำเป็นตามประเภทการรับรอง
หมายเหตุ: อาจมีการแชร์เอกสารที่ส่งมากับเจ้าของสิทธิ์หรือผู้จำหน่ายที่แบรนด์รับรองเพื่อใช้ในการตรวจสอบเพิ่มเติม การส่งเอกสารที่มีการดัดแปลงหรือปลอมแปลงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัดและอาจส่งผลให้มีบทลงโทษกับบัญชีของคุณ

แนวทางเพิ่มเติมสำหรับการขอการรับรองแบรนด์

  • ชื่อเครื่องหมายการค้า
    • กรอกชื่อให้ตรงกับที่จดทะเบียน รวมตัวเลข ตัวอักษร และอักขระพิเศษทั้งหมด (รวมเว้นวรรค)
    • หากเครื่องหมายการค้ามีโลโก้เพียงอย่างเดียว ให้กรอกชื่อแบรนด์
  • หมายเลขจดทะเบียน:
    • กรอกหมายเลขจดทะเบียนที่ปรากฏในใบรับรองเครื่องหมายการค้า (ไม่ใช่หมายเลขใบสมัคร)
  • ชื่อแบรนด์
    • ใช้การสะกดและรูปแบบที่เป็นทางการของแบรนด์ (ตัวพิมพ์ใหญ่/เล็กตามที่บริษัทใช้)
    • ต้องตรงกับเว็บไซต์ทางการ เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน หรือบรรจุภัณฑ์สินค้าของแบรนด์
    • จำกัดตัวอักษร: 2–30 ตัวอักษรและตัวเลข
    • ภาษา: ชื่อแบรนด์สามารถใช้ได้ทุกภาษา
    • ❌ ไม่อนุญาตให้ใช้:
      • สัญลักษณ์ (®, ™, ©)
      • ไฮเปอร์ลิงก์หรือชื่อโดเมน (เช่น .com, .cn, .net, .org, www., http:)
      • อีเมล (เช่น gmail.com, outlook.com)
      • วลีที่ส่งเสริมการขาย (เช่น "ดีลที่ดีที่สุด", "ส่งฟรี")
      • ต้องไม่ประกอบด้วยอักขระพิเศษทั้งหมด (เช่น "&/$*%#+") หรือเลขต่อเนื่องเกิน 5 ตัว (เช่น "111111")
        • ชื่อแบรนด์ต้องประกอบด้วยตัวอักษรและเลขอย่างน้อย 1 ตัว (เช่น su:m37°, 7-Eleven, & Other Stories)
  • หมวดหมู่
    • ข้อนี้หมายถึงการจำแนกประเภทสินค้าและบริการระหว่างประเทศ (NCL) ของสินค้าและบริการที่เครื่องหมายการค้านั้นได้จดทะเบียนไว้
    • เครื่องหมายการค้าทั้งหมดในคลาส 1–35 เป็นเครื่องหมายการค้าที่ยอมรับได้

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ฉันจะหาข้อมูลเครื่องหมายการค้าได้ที่ไหน

คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดเครื่องหมายการค้าได้โดยใช้ ฐานข้อมูลแบรนด์ระดับโลก WIPO
  • ค้นหาด้วยชื่อแบรนด์ เจ้าของ หรือหมายเลขจดทะเบียน
  • ใช้ใช้ตัวเลือกตัวกรองค้นหา:
    • สถานะ: Registered
    • ประเทศปลายทาง
    • การจำแนกประเภทสินค้าและบริการระหว่างประเทศ (NICE Classification): เลือกหมวดหมู่ที่ตรงกับสินค้าของคุณ
image

ฉันสามารถเปลี่ยนชื่อแบรนด์หลังจากที่การรับรองแบรนด์ได้รับอนุมัติแล้วได้หรือไม่

ไม่ได้ หลังจากการขอการรับรองแบรนด์ของคุณได้รับอนุมัติแล้ว ชื่อแบรนด์ที่ได้รับการรับรองถือเป็นที่สิ้นสุดและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายหลัง

ทำไมการรับรองแบรนด์ของฉันจึงถูกปฏิเสธ

การขอการรับรองแบรนด์ของคุณอาจถูกปฏิเสธ หากข้อมูลหรือเอกสารที่คุณส่งไม่ตรงตามข้อกำหนดของ TikTok Shop โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบทความนี้