วิธีขอการรับรองแบรนด์
24/10/2568
การรับรองแบรนด์คืออะไร
การรับรองแบรนด์ เป็นขั้นตอนที่ช่วยยืนยันว่าสินค้าที่มีแบรนด์ที่ขายบน TikTok Shop เป็นสินค้าแท้และได้รับอนุญาตให้มีการจัดจำหน่ายอย่างถูกต้อง โดยผู้ที่สามารถยื่นขอสมัครการรับรองแบรนด์ได้คือ เจ้าของเครื่องหมายการค้า ผู้ขายที่ได้รับอนุญาต หรือผู้ขายที่มีหลักฐานการซื้อสินค้าที่มีแบรนด์
โปรดทราบว่าผู้ขายมีหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฏหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวกับสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมด โดยการรับรองแบรนด์ของแพลตฟอร์มไม่อาจยกเว้นความรับผิดชอบของผู้ขายในกรณีที่มีการละเมิดกฏหมายหรือข้อกำหนดที่เกี่ยวกับสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาใด ๆการรับรองแบรนด์มีกี่ประเภท
ผู้ขายสามารถขอการรับรองแบรนด์ได้ หากมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้- เจ้าของเครื่องหมายการค้า: คุณคือเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ได้จดทะเบียนแล้ว
- ผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับ 1 แต่เพียงผู้เดียวในประเทศ: คุณเป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวที่ได้รับสิทธิโดยตรงจากเจ้าของเครื่องหมายการค้า
- ผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 1: คุณได้รับอนุญาตให้ขายสินค้าโดยเจ้าของเครื่องหมายการค้า
- ผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 2: คุณได้รับอนุญาตให้ขายสินค้าโดยผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 1
- ผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 3: คุณได้รับอนุญาตให้ขายสินค้าโดยผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 2
- ผู้ขายที่มีหลักฐานการซื้อ (เปิดให้ขอการรับรองได้เฉพาะผู้ขายบางราย): คุณสามารถแสดงใบแจ้งหนี้หรือใบเสร็จรับเงินที่ถูกต้องสำหรับสินค้าที่ซื้อโดยตรงจากเจ้าของเครื่องหมายการค้าหรือผู้ขายที่ได้รับอนุญาต
เอกสารที่ต้องใช้ตามประเภทการรับรองคุณสมบัติ

เจ้าของเครื่องหมายการค้า
- ใบรับรองเครื่องหมายการค้าอย่างเป็นทางการ
- สามารถลงทะเบียนบัญชีผู้ขายเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าได้เพียงบัญชีเดียว โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสมัครด้วยบัญชีผู้ขายที่ถูกต้อง
สำหรับผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 1 เป็นกรณีพิเศษในประเทศ
หนังสือมอบอำนาจ (LOA) หรือจดหมายจัดจำหน่ายที่ตรงตามข้อกำหนดต่อไปนี้ทั้งหมด- ออกโดยเจ้าของแบรนด์โดยตรง
- ระบุชื่อบริษัทหรือชื่อบุคคลของคุณ (ตามที่แสดงใน Seller Center > โปรไฟล์ผู้ขาย > ข้อมูลธุรกิจ)
- ระบุชื่อแบรนด์ (ตรงกับแบรนด์ที่คุณสมัคร)
- ระบุระยะเวลาที่ใช้ได้
- ลงนามหรือรับรองโดยเจ้าของแบรนด์หรือตัวแทน โดยมีชื่อจริง นามสกุล และตำแหน่ง
- ระบุเงื่อนไขการจัดจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟอย่างชัดเจน
- ต้องเป็นเอกสารอนุญาตที่ถูกต้องและเป็นของจริง
ผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 1
หนังสือมอบอำนาจ (LOA) หรือจดหมายจัดจำหน่ายที่ตรงตามข้อกำหนดต่อไปนี้ทั้งหมด- ออกโดยเจ้าของแบรนด์โดยตรง
- ระบุชื่อบริษัทหรือชื่อบุคคลของคุณ (ตามที่แสดงใน Seller Center > โปรไฟล์ผู้ขาย > ข้อมูลธุรกิจ)
- ระบุชื่อแบรนด์ (ตรงกับแบรนด์ที่คุณสมัคร)
- ระบุระยะเวลาที่ใช้ได้
- ลงนามหรือรับรองโดยเจ้าของแบรนด์หรือตัวแทน โดยมีชื่อจริง นามสกุล และตำแหน่ง
- ต้องเป็นเอกสารอนุญาตที่ถูกต้องและเป็นของจริง
ผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 2
หนังสือมอบอำนาจ (LOA) หรือจดหมายจัดจำหน่ายที่ออกโดยตรงจากผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 1 ถึงคุณที่ตรงตามข้อกำหนดต่อไปนี้- ออกโดยผู้ได้รับอนุญาตจากแบรนด์
- ส่งเอกสารเพิ่มเติมแสดงว่าผู้ส่งมีสิทธิจากเจ้าของแบรนด์ในการอนุญาตผู้ขายอื่น
- ระบุชื่อบริษัทหรือชื่อบุคคลของคุณ (ตามที่แสดงใน Seller Center > โปรไฟล์ผู้ขาย > ข้อมูลธุรกิจ)
- ระบุชื่อแบรนด์ (ตรงกับแบรนด์ที่คุณสมัคร)
- ระบุระยะเวลาที่ใช้ได้
- ลงนามหรือรับรองโดยเจ้าของแบรนด์หรือตัวแทน โดยมีชื่อจริง นามสกุล และตำแหน่ง
- ต้องเป็นเอกสารอนุญาตที่ถูกต้องและเป็นของจริง
- ไม่บังคับ: ส่งเอกสารมอบอำนาจหรือจดหมายจัดจำหน่ายที่ออกโดยเจ้าของแบรนด์โดยตรงไปยังผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 1
ผู้ขายที่มีหลักฐานการซื้อ
ใบแจ้งหนี้หรือใบเสร็จที่ออกภายใน 12 เดือนล่าสุดซึ่งมีรายละเอียดต่อไปนี้
- วันที่ซื้อ ชื่อซัพพลายเออร์ ชื่อผู้ซื้อ แบรนด์สินค้า รายละเอียดสินค้า จำนวน และราคา
- หากคุณไม่สามารถเปิดเผยราคาสินค้าอันเนื่องมาจากข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูล โปรดส่งสำเนาข้อตกลงในการสมัครของคุณ
- หากหลักฐานการซื้อไม่ได้ออกโดยเจ้าของแบรนด์ ให้ส่งเอกสารหรือภาพหน้าจอของเว็บไซต์ทางการ (ที่มีลิงก์ URL) เพื่อแสดงให้เห็นว่าซัพพลายเออร์คือผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของแบรนด์
- ภาพสินค้าในสินค้าคงคลังของคุณ
- ภาพสินค้าจริง (พร้อมบรรจุภัณฑ์) ในมุมต่าง ๆ ทั้งหมด 6 มุม
วิธีส่งการรับรองแบรนด์
ขั้นตอนที่ 1 - เข้าสู่ระบบ Seller Center
- เข้าสู่ระบบบัญชีผู้ขายของคุณและส่งเอกสารที่จำเป็น โดยไปที่ "บัญชีของฉัน" > "การตั้งค่าบัญชี" > "ศูนย์การรับรอง" > "การรับรองแบรนด์" > "เพิ่มการรับรองแบรนด์"

ขั้นตอนที่ 2 - เลือกประเภทการรับรองของคุณ
เลือกประเภทการรับรองที่เกี่ยวข้อง (เช่น เจ้าของเครื่องหมายการค้า ผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์ระดับที่ 1 เป็นต้น)ขั้นตอนที่ 3 - กรอกข้อมูลเครื่องหมายการค้า/การรับรองคุณสมบัติ
กรอกทุกช่องที่จำเป็นขั้นตอนที่ 4: อัปโหลดเอกสารประกอบ
แนบเอกสารที่จำเป็นตามประเภทการรับรองหมายเหตุ: อาจมีการแชร์เอกสารที่ส่งมากับเจ้าของสิทธิ์หรือผู้จำหน่ายที่แบรนด์รับรองเพื่อใช้ในการตรวจสอบเพิ่มเติม การส่งเอกสารที่มีการดัดแปลงหรือปลอมแปลงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัดและอาจส่งผลให้มีบทลงโทษกับบัญชีของคุณ
แนวทางเพิ่มเติมสำหรับการขอการรับรองแบรนด์
- ชื่อเครื่องหมายการค้า
- กรอกชื่อให้ตรงกับที่จดทะเบียน รวมตัวเลข ตัวอักษร และอักขระพิเศษทั้งหมด (รวมเว้นวรรค)
- หากเครื่องหมายการค้ามีโลโก้เพียงอย่างเดียว ให้กรอกชื่อแบรนด์
- หมายเลขจดทะเบียน:
- กรอกหมายเลขจดทะเบียนที่ปรากฏในใบรับรองเครื่องหมายการค้า (ไม่ใช่หมายเลขใบสมัคร)
- ชื่อแบรนด์
- ใช้การสะกดและรูปแบบที่เป็นทางการของแบรนด์ (ตัวพิมพ์ใหญ่/เล็กตามที่บริษัทใช้)
- ต้องตรงกับเว็บไซต์ทางการ เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน หรือบรรจุภัณฑ์สินค้าของแบรนด์
- จำกัดตัวอักษร: 2–30 ตัวอักษรและตัวเลข
- ภาษา: ชื่อแบรนด์สามารถใช้ได้ทุกภาษา
- ❌ ไม่อนุญาตให้ใช้:
- สัญลักษณ์ (®, ™, ©)
- ไฮเปอร์ลิงก์หรือชื่อโดเมน (เช่น .com, .cn, .net, .org, www., http:)
- อีเมล (เช่น gmail.com, outlook.com)
- วลีที่ส่งเสริมการขาย (เช่น "ดีลที่ดีที่สุด", "ส่งฟรี")
- ต้องไม่ประกอบด้วยอักขระพิเศษทั้งหมด (เช่น "&/$*%#+") หรือเลขต่อเนื่องเกิน 5 ตัว (เช่น "111111")
- ชื่อแบรนด์ต้องประกอบด้วยตัวอักษรและเลขอย่างน้อย 1 ตัว (เช่น su:m37°, 7-Eleven, & Other Stories)
- หมวดหมู่
- ข้อนี้หมายถึงการจำแนกประเภทสินค้าและบริการระหว่างประเทศ (NCL) ของสินค้าและบริการที่เครื่องหมายการค้านั้นได้จดทะเบียนไว้
- เครื่องหมายการค้าทั้งหมดในคลาส 1–35 เป็นเครื่องหมายการค้าที่ยอมรับได้
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ฉันจะหาข้อมูลเครื่องหมายการค้าได้ที่ไหน
คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดเครื่องหมายการค้าได้โดยใช้ ฐานข้อมูลแบรนด์ระดับโลก WIPO- ค้นหาด้วยชื่อแบรนด์ เจ้าของ หรือหมายเลขจดทะเบียน
- ใช้ใช้ตัวเลือกตัวกรองค้นหา:
- สถานะ: Registered
- ประเทศปลายทาง
- การจำแนกประเภทสินค้าและบริการระหว่างประเทศ (NICE Classification): เลือกหมวดหมู่ที่ตรงกับสินค้าของคุณ
