คู่มือสำหรับผู้ขายเกี่ยวกับตัวอย่างสินค้าที่ขอเงินคืนได้
24/07/2568
ตัวอย่างสินค้าที่ขอเงินคืนได้ คืออะไร?
ตัวอย่างสินค้าเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับครีเอเตอร์ในการโปรโมทสินค้าของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อครีเอเตอร์ได้นำเสนอตัวอย่างสินค้าจริงๆ เนื้อหาของพวกเขามักจะได้รับความสนใจมากขึ้น และสามารถโน้มน้าวใจผู้ซื้อได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ผู้ขายบางรายอาจเลือกที่จะมอบตัวอย่างสินค้าให้ฟรี (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอย่างสินค้าฟรีได้ที่ที่นี่) แต่ไม่ใช่ผู้ขายทุกคนที่จะมีงบประมาณหรือความมั่นใจที่จะทำเช่นนั้นล่วงหน้าตัวอย่างสินค้าที่ขอเงินคืนได้ เป็นทางเลือกที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ครีเอเตอร์จะซื้อสินค้า ใช้สินค้านั้นเพื่อสร้างเนื้อหาโปรโมท และหากสามารถสร้างยอดขายได้ภายใน 60 วัน จะได้รับเงินคืนจากค่าสินค้าตัวอย่างนั้น แต่ถ้าไม่มีการขายเกิดขึ้น จะไม่มีการคืนเงิน
วิธีการนี้ช่วยดึงดูดครีเอเตอร์ให้ร่วมงานกับคุณ และลดความเสี่ยงด้านการลงทุนล่วงหน้าของคุณ พร้อมกันนี้ยังเป็นแรงจูงใจให้ครีเอเตอร์พยายามทำยอดขายให้เกิดขึ้นอีกด้วย!
📌สำคัญ: เมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขการขอเงินคืน ระบบจะดำเนินการคืนเงินโดยอัตโนมัติจากบัญชีของคุณ ครีเอเตอร์จะได้รับเงินคืนเต็มจำนวนตามที่พวกเขาชำระไว้ในตอนแรก และค่าคอมมิชชันของแพลตฟอร์มที่ถูกเรียกเก็บจากคำสั่งซื้อที่เป็นตัวอย่างสินค้าที่ขอเงินคืนได้ จะถูกคืนให้กับคุณด้วยเช่นกัน อ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขที่นี่จะตั้งค่าตัวอย่างสินค้าที่ขอเงินคืนได้สำหรับสินค้าของคุณได้อย่างไร?
ขณะนี้ ตัวอย่างสินค้าที่ขอเงินคืนได้ สามารถใช้ได้เฉพาะกับสินค้าที่อยู่ภายใต้ Collaboration แบบเปิด เท่านั้น คุณสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ทั้งกับสินค้าที่มีอยู่แล้วใน Collaboration แบบเปิด หรือกับสินค้าที่คุณวางแผนจะเพิ่มเข้าไปใหม่ในระบบนั้น| ขั้นตอนที่ 1:ใน Collaboration แบบเปิด ให้แก้ไขสินค้าที่มีอยู่ หรือเพิ่มสินค้าใหม่ ระบบจะแสดงหน้าการตั้งค่าแอฟฟิลิเอตให้คุณกำหนดหากต้องการเปิดใช้งานตัวอย่างสินค้าที่ขอเงินคืนได้ เพียงเปิดสวิตช์ตัวเลือกนี้เท่านั้นขั้นตอนที่ 2:ตั้งค่าเกณฑ์ยอดขายที่ครีเอเตอร์ต้องทำให้ได้ เพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับเงินคืน โดยระบบจะคืนเงินเฉพาะเมื่อยอดขายถึงจำนวนที่คุณกำหนดไว้เท่านั้นเคล็ดลับ:ครีเอเตอร์จะเห็นเงื่อนไขการขอเงินคืนก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าตัวอย่าง หากคุณตั้งเงื่อนไขที่ชัดเจนและสมเหตุสมผล จะช่วยเพิ่มความสนใจให้พวกเขาอยากโปรโมทสินค้าของคุณมากขึ้น |  |
การจัดส่งตัวอย่างสินค้าที่ขอเงินคืนได้
| ไปที่ แอฟฟิลิเอต > คำขอตัวอย่างสินค้า > ตัวอย่างสินค้าที่ขอเงินคืนได้ เพื่อดูคำขอสำหรับตัวอย่างสินค้าที่สามารถขอเงินคืนได้คุณสามารถเริ่มกระบวนการจัดส่งได้โดยคลิกที่ “จัดการการจัดส่ง” บนหน้านี้ ระบบจะพาคุณไปที่ Seller Center > จัดการคำสั่งซื้อ ซึ่งคุณสามารถดำเนินการจัดส่งได้เช่นเดียวกับคำสั่งซื้อสินค้าปกติ |  |
หรืออีกวิธีหนึ่ง คุณสามารถไปที่หน้า จัดการคำสั่งซื้อ โดยตรง และใช้ตัวกรองเพื่อค้นหาคำขอสำหรับตัวอย่างสินค้าที่ขอเงินคืนได้ |  |
การติดตามเนื้อหาจากตัวอย่างสินค้าที่ขอเงินคืนได้และสถานะการคืนเงิน
เมื่อมีการจัดส่งตัวอย่างสินค้าแล้ว สถานะของคำสั่งซื้อนั้นจะเปลี่ยนเป็น “ยังไม่ผ่านเกณฑ์” ซึ่งครอบคลุมทั้ง:
|  |
| เมื่อครีเอเตอร์ทำยอดขายถึงตามที่กำหนดไว้ สถานะจะเปลี่ยนเป็น “คืนเงินแล้ว” และระบบจะดำเนินการคืนเงินค่าสินค้าโดยอัตโนมัติคุณสามารถดูรายละเอียดการคืนเงินได้ เช่น วันที่คืนเงิน และจำนวนเงินที่คืนคุณยังสามารถดูเนื้อหาโปรโมตที่ครีเอเตอร์ได้สร้างขึ้น รวมถึงติดตามผลลัพธ์ของเนื้อหานั้นได้ด้วย |   |
| คุณยังสามารถดูเนื้อหาโปรโมตที่ครีเอเตอร์ได้สร้างขึ้น รวมถึงติดตามผลลัพธ์ของเนื้อหานั้นได้ด้วย |  |
| สำหรับตัวอย่างสินค้าที่ไม่สามารถทำยอดขายถึงตามเกณฑ์ภายในระยะเวลาที่กำหนด (60 วัน) สถานะจะถูกระบุว่า “ยังไม่ได้คืนเงิน”หากครีเอเตอร์ยกเลิกคำสั่งซื้อระหว่างกระบวนการ สถานะของตัวอย่างสินค้านั้นจะแสดงเป็น “ยกเลิกแล้ว” |  |
คำถามที่พบบ่อย
ได้ คุณสามารถเสนอทั้งสองแบบสำหรับสินค้าชิ้นเดียวกันได้
ค่าจัดส่งจะถูกเรียกเก็บในลักษณะเดียวกับคำสั่งซื้อปกติ หากคุณเข้าร่วม โปรแกรมจัดส่งฟรี* XTRA ครีเอเตอร์จะเป็นผู้ชำระค่าจัดส่งในส่วนที่โปรแกรมไม่ครอบคลุม จำนวนเงินนี้จะถูกคืนให้เมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขการคืนเงิน
ได้ ครีเอเตอร์สามารถรับสิทธิ์ส่วนลดหรือโปรโมชั่นต่างๆ ที่มีสำหรับสินค้าของคุณเมื่อซื้อเป็นตัวอย่างสินค้าที่ขอเงินคืนได้
- ฉันสามารถเสนอทั้งตัวอย่างสินค้าฟรีและตัวอย่างสินค้าที่ขอเงินคืนได้ สำหรับสินค้าชิ้นเดียวกันได้ไหม?
- ใครเป็นคนจ่ายค่าจัดส่ง?
- ส่วนลดหรือโปรโมชั่นที่กำลังใช้กับสินค้าของฉัน จะมีผลกับคำสั่งซื้อตัวอย่างสินค้าที่ขอเงินคืนได้หรือไม่?
- จะเกิดอะไรขึ้นกับคำสั่งซื้อตัวอย่างสินค้าที่ขอเงินคืนได้ หากฉันลบสินค้าออกจาก Collaboration แบบเปิด หรือร้านค้าของฉัน?
- ถูกผู้ขายลบออกด้วยเหตุผลใดก็ตาม (เช่น ถูกลบออกจาก Collaboration แบบเปิด หรือร้านค้า, สินค้าหมดสต็อก)
- ถูกลบออกโดยแพลตฟอร์มเนื่องจากละเมิดนโยบาย
- ไม่สามารถใช้งานได้เพราะผู้ขายไม่ได้ใช้งาน