คูปองส่วนลดแบบธรรมดาจากผู้ขายคืออะไร

1. ทุกช่องทาง: แสดงบนทุกช่องทางของ TikTok Shop
2. Shopping Center: แสดงบนช่องทาง Shopping Center ของ TikTok Shop

สร้างคูปองส่วนลดแบบธรรมดาจากผู้ขาย

บน Seller Center บนพีซี

• ประเภทส่วนลด: คุณสามารถตั้งจำนวนที่ลดหรือส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์ให้กับคูปองได้
  • จำนวนที่ลด: ลดราคาด้วยการกำหนดมูลค่าคงที่
  • เปอร์เซ็นต์ที่ลด: ลดราคาโดยการกำหนดเปอร์เซ็นต์
• ยอดใช้จ่ายขั้นต่ำ: ยอดการใช้จ่ายขั้นต่ำที่ผู้ซื้อต้องใช้จ่ายจึงจะสามารถรับส่วนลดได้
• ส่วนลดสูงสุดต่อคำสั่งซื้อ: สำหรับประเภทส่วนลดเปอร์เซ็นต์ที่ลด คุณสามารถเลือกที่จะกำหนดส่วนลดสูงสุดต่อคำสั่งซื้อได้ (ส่วนลดสูงสุดต่อคำสั่งซื้อต้องมากกว่าหรือเท่ากับ เปอร์เซ็นต์ส่วนลด x ยอดใช้จ่ายขั้นต่ำ)
  • ตัวอย่าง: หากส่วนลดคือ 50% และยอดใช้จ่ายขั้นต่ำคือ 10 ส่วนลดสูงสุดต่อคำสั่งซื้อจะต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 5
• ปริมาณการใช้งาน: ระบุปริมาณการใช้งานสำหรับคูปองของคุณ เมื่อปริมาณการใช้งานถึงจำนวนที่กำหนด ผู้ซื้อทั้งหมด รวมถึงผู้ที่รับสิทธิ์คูปองแล้ว จะไม่สามารถใช้คูปองดังกล่าวได้อีก
• จำนวนที่สามารถรับสิทธิ์ได้: โดยค่าเริ่มต้น สามารถรับสิทธิ์จำนวนคูปองได้ทั้งหมด 99,999 ใบ อย่างไรก็ตาม ขีดจำกัดการใช้คูปองจะขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานที่ผู้ขายให้มา โดยจะคำนวณตามหลักมาก่อนได้ก่อน
• จำนวนสิทธิ์ที่รับได้ต่อลูกค้าหนึ่งราย: ในแต่ละคำสั่งซื้อสามารถใช้คูปองผู้ขายได้สูงสุด 1 ใบต่อหนึ่งคำสั่งซื้อ จำนวนสิทธิ์ที่รับได้ต่อลูกค้าหนึ่งราย หมายถึง จำนวนครั้งที่ผู้ซื้อรายเดียวกันสามารถใช้คูปองในคำสั่งซื้อที่แตกต่างกันได้

• หากเลือกสินค้าเฉพาะ คุณจะสามารถกรองตามหมวดหมู่สินค้า ชื่อสินค้า และ ID สินค้าได้

ในแอป Seller Center

• กำหนดชื่อโปรโมขั่นและระยะเวลาโปรโมขั่น
• เลือกประเภทส่วนลด และระบุการตั้งค่าคูปอง (จำนวนส่วนลดหรือเปอร์เซ็นต์ การใช้จ่ายขั้นต่ำและส่วนลดสูงสุดต่อคำสั่งซื้อและปริมาณการใช้งาน)
• เลือกว่าจะใช้คูปองกับสินค้าทั้งหมดหรือเฉพาะสินค้าบางชิ้นและคุณสามารถค้นหาสินค้าที่ต้องการให้ใช้คูปองได้ง่ายๆ โดยการค้นหาชื่อสินค้า
• หลังจากที่คุณตรวจสอบรายละเอียดโปรโมขั่นแล้ว ให้คลิกบันทึก

1. กำหนดยอดใช้จ่ายขั้นต่ำของคุณที่สูงกว่ามูลค่าคำสั่งซื้อเฉลี่ย 1.2-1.5 เท่าเพื่อเพิ่มขนาดตะกร้าของผู้ซื้อของคุณ คุณสามารถดูมูลค่าคำสั่งซื้อเฉลี่ยในอดีตของร้านค้าของคุณจากรายงานข้อมูล
2. สร้างคูปองหลายระดับด้วยยอดใช้จ่ายขั้นต่ำที่ต่ำ ปานกลาง และสูง ซึ่งจะกระตุ้นผู้ซื้อให้ซื้อสินค้าเพิ่มในคำสั่งซื้อเดียวด้วยการนำเสนอส่วนลดที่มากขึ้นเพื่อให้มียอดใช้จ่ายขั้นต่ำที่สูงขึ้น
3. คุณไม่จำเป็นต้องให้ส่วนลดกับร้านค้าทั้งร้านเสมอไป คูปองสามารถใช้ได้กับสินค้าที่ระบุ เช่น การโปรโมทสินค้าใหม่หรือการลดล้างสต็อก

จัดการคูปองส่วนลดแบบธรรมดาจากผู้ขาย

ติดตามประสิทธิภาพของคูปอง

1. อัตราการแลกใช้ที่ต่ำอาจหมายความว่าโปรโมชั่นของคุณไม่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย หรือว่าแลกใช้ได้ยากเกินไป
   1. ยอดใช้จ่ายขั้นต่ำอาจสูงเกินไปสำหรับราคาขายเฉลี่ยของสินค้า
   2. ถ้าเป็นการตั้งค่าคูปองสำหรับ "สินค้าเฉพาะ" คุณอาจจำเป็นต้องทดสอบกับสินค้าหลายๆ กลุ่ม
2. การวิเคราะห์มูลค่าคำสั่งซื้อเฉลี่ย (AOV) ยังสามารถช่วยคุณปรับแต่งเครื่องมือโปรโมชั่นให้เหมาะสม ถ้า AOV ของคุณต่ำกว่าที่คุณต้องการ ให้ลองตั้งยอดใช้จ่ายขั้นต่ำที่สูงขึ้นเพื่อจูงใจให้ลูกค้าใช้จ่ายมากขึ้น
3. ติดตามรายได้ที่เกิดจากคูปองของคุณ เพื่อดูว่าคูปองใดมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต

คำถามที่พบบ่อย

1. เหตุใดฉันจึงได้รับข้อความ "ส่วนลดสูงสุดต่อคำสั่งซื้อต่ำ"

ตัวอย่าง:

• คูปองส่วนลด 20% ที่มีส่วนลดสูงสุดต่อคำสั่งซื้อคือ $1
• ราคาเดิมของสินค้า A คือ $100
• เมื่อลด 20% ส่วนลดจะเป็น $20 อย่างไรก็ตาม ส่วนลดสูงสุดต่อคำสั่งซื้อจะเท่ากับเพียง $1
• เป็นโปรโมชั่นที่ไม่น่าสนใจ เนื่องจากราคาสุดท้ายจะอยู่ที่ $99
• จะแสดงการเตือนส่วนลดสูงสุดต่อคำสั่งซื้อต่ำ

2. หากลูกค้าเก็บคูปอง Shopping Center แล้วเพิ่มสินค้าของผู้ขายหลายรายการไปยังรถเข็น จากทั้ง Shopping Center และที่ไม่ใช่จาก Shopping Center ลูกค้ายังจะใช้คูปอง Shopping Center กับสินค้าเหล่านั้นได้อยู่หรือไม่
3. จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อปริมาณการใช้งานคูปองถึงขีดจำกัด
4. หากคำสั่งซื้อที่มีการใช้คูปองส่วนลดแบบธรรมดาถูกยกเลิกหรือมีการส่งคืนสินค้าในภายหลัง ปริมาณการใช้งานคูปองจะได้รับการอัปเดตหรือไม่

เช่น ตั้งปริมาณการใช้งานคูปองไว้ที่ 100

• ปริมาณการใช้งาน = 50
• การยกเลิกคำสั่งซื้อ = 1
• ปริมาณการใช้งานจะได้รับการอัปเดตเป็น 49